ห้องที่ ๑๑๐ : พระเจ้าราชวรวงษเธอ พระองค์เจ้าบุตรี


           มณโฑอรรคเรศทั้งอัคคี
พิเภกเอกองค์ศรีอนุชน้อง
สนมนาฎราชพิรีย์พลไพร่ เมืองนา
ต่างโศกกำศรดร้องร่ำไห้แสนศัลย
           พิเภกรับสั่งให้พนักงาน
เชิญพระศพปรดิษฐานโกษแก้ว
วางเหนือราชรถยานรายเครื่อง สูงแฮ
พลแห่พรั่งพร้อมแล้วเคลื่อนคล้อยคลาขบวน
           แตรสังขเซงแซ่ซ้องเสียงครหึม
กลองชนะประโคมครึมครั่นครื้น
เสนาเนตรนองซึมชลคร่ำ ครวญเฮย
สบส่ำสาวสนมสอื้นกลับเข้าเวียงไชย
           ถึงราชนิเวศนยั้งอยุดประทับ เกยแฮ
ยานมาศรายเรียงรับศพท้าว
สู่ปราสาทรัตนรดับรดาฉัตร ไสวเฮย
โดยรีตขัดติจอมจ้าวพิภพเบื้องโบราณ
           องค์อสุรพิเภกเชื้อพรหมมาน
ออกพระโรงชัชวาลย์มาตย์เฝ้า
จึ่งมีราชบรรหารให้จัด พลเฮย
เราจักพาปรยูรเต้านอบน้อมจักรี
           ขุนมาตยรับสั่งแล้วจัดสรร เสรจแฮ
พิเภกพาพงษพันธุ์พรั่งพร้อม
ยูรยาตรสู่สวนขวัญถึงปรทับ พลเฮย
เหล่าพระวงษนบน้อมหมอบเฝ้าพระลักษมี
           องค์ท้าวพิเภกน้อมอัญชลี
ทูลพระอรรคเทพีผ่านฟ้า
ข้าคืออนุชอสุรีทศภักตร์
ชื่อพิเภกเป็นข้าบาทเจ้าจักรพงษ
          บัดนี้บรมนารถเผ้าภูวนา ยกเฮย
กับพระศรีอนุชาธิราชเจ้า
มล้างทศภักตร์พิราลัยมอด ชนม์แฮ
เชิญพระบาทเสดจเฝ้านเรศรเรื้องรังสรรค์
           พระอรรคนาเรคไท้สดับสาร
ว่าทศกรรฐมลายลาญชีพแล้ว
สร่างศัลยกระเษมปานอมฤตย โสรดแฮ
ดาลดับกำเดาแผ้วพิศม์พ้นกมลหมอง
           ปราไสยพิเภกด้วยเสาวนี
ชรอยว่ากรรมเรามีก่อนส้ราง
จำจากพระจักรีตรอมเทวศ
แสนทุกข์สุดที่อ้างยิ่งร้อนเพลิงเผา
           เหลือคิดคับอกอั้นตันใจ จริงนอ
แม้นมาดสัตรีใดดุจข้า
ยากผู้จะเหนในจริงจิตร เรานา
ไฉนพระจอมโลกยหล้าจักสิ้นอางขนาง
           พิเภกสนองถ้อยกราบทูลอนงค์
พระแม่อย่าแรวงพวงหวาดเศร้า
ธรรมดานพคุณคงเลียงหล่อ แล้วแฮ
ถึงจะจ่อมจมเถ้าต่ำเนื้อฤๅมี
           ทรงฟังพิเภกพร้องสบประสงค์
เราจะเฝ้าจักรพงษผ่านเกล้า
จำจักโสรดสรงทรงสนานเกษ สกนธ์เฮย
ให้หมดมุฑิลเศร้าหม่นไหม้หมองศรี
           อมรินทรดำริหรู้ในวาร จิตรแฮ
ว่าพระมิ่งเยาวมาลย์สร่างเศร้า
นางคิดใคร่ทรงสนานสรงโสรด
จักเสดจบทจรเฝ้าธิเบศรไท้ทรงธรรม
          ตริเสรจดำรัสใช้กัลยา สองเอย
ชื่ออรุณรำภาภักตร์แผ้ว
จงเชิญทิพยรัตนาภรณ์เครื่อง สนานแฮ
ถวายพระลักษมีแล้วอยู่เต้าตามจรัล
           นางฟ้าเชิญเครื่องผ้ายผยองผัน เหาะเฮย
ลงสู่สร้อยสวนขวัญนบน้อม
ทูลถวายเครื่องทรงอันอมเรศ ถวายแฮ
ยุพราชทรงเครื่องพร้อมเสดจเข้าโสรดสรง
           สระสนานอุทกท้าวมัฆวาน ถวายนา
ทรงสุคนธาธารทิพยแท้
สาวสวรรค์ประคองพานเชิญเชิด
ถวายพระภูษาแล้เครื่องต้นแต่งองค์
           ทรงทิพยภูษิตแต้มทองรบาย
สภักตาดติดดุนรายเลื่อมพร้อย
สังวาลสอดสามสายแสงรยับ
รัดพัตรรัตนมาศสร้อยอร่ามแพร้วพรายสี
           สระอิ้งมรกฎแก้วเขียวขจี
พาหุรัดรายมณีนพเก้า
วลัยหัดถ์ปัทมราดสีแดงสด
พรายเพชรพรรณรุ่งเร้าสอดนิ้วธำมรงค์
           กรรฐาภรณเลิศล้วนดวงประพาฬ
ตาบประดับรัตนประสานสลับแพร้ว
กุณฑลทิพยอลังการกรรเจียก
ทรงมกุฏวชิเรศแก้วพร่างรุ้งเรืองแสง
           เสรจสรงทรงเครื่องล้วนทิพยา ภรณเฮย
เสดจจากตำหนักนาเรศห้อม
เถลิงเกยรัตนมหาบุษบก รับแฮ
แสนส่ำอสุรพลน้อมนอบเกล้ากราบไสว
          เสดจทรงบุษบกแก้วเกสร
แสงแข่งสุริยเขจรส่องหล้า
ห้ายอดเยี่ยมอำพรพ่างจรด เมฆฤๅ
พรายนพมณีจ้าจรัสรุ้งจรุญศรี
           พิเภกนำพยุหย้ายยาตรา
เนืองนิกรโยธาพรั่งพร้อม
ออกจากเฃตรลงกานคเรศ
อเนกพหลยักษ์ห้อมแห่เต้าตามผลู
           สำมนักขาขนิฐท้าวทศภัตร์
ทราบว่าสุริวงษยักษท่วนหน้า
ไปเฝ้าพระจอมจักกฤษณราช
ยังแต่ตูเดียวอ้าอกโอ้ทำไฉน
           จักไปกลัวผิดพ้องพะตน
กูสิทำเล่ห์กลชั่วช้า
ก่อเหตุเกิดการรณรงค์ยุทธ ใหญ่แฮ
แม้จักมิไปถ้าผิดไซ้คงถึง
           คำนึงนึกแล้วเล่าพวักพวง ใจเฮย
จำจะไปตามอนงค์เหล่านั้น
ผลัดภูษิตสภักทรงเสยเกษ
ลงจากปราสาทชั้นรีบร้นเรวตาม
           ถึงขบวนด่วนตัดท้ายพลขันธ์ ไปนา
ค่อยย่องตามกำนัลลดเลี้ยว
เดินพลางอยุดยืนหันเดินต่อ ไปแฮ
เวียนวกจรคดเคี้ยวเหลือบซ้ายเหลียวขวา
           กลัวองควรนาฎเจ้าจอมสุรางค์
เดินหลีกกำนัลนางห่อนใกล้
ตามติดตรลอดทางทิวพนัศ
ก้มภักตรนิ่งบได้พูดด้วยนางใด

จบห้องที่ ๑๑๐

  เนื้อความกล่าวถึงพิเภกให้ประดิษฐานพระศพทศกัณฐ์ในโกศแก้วแล้วเคลื่อนขบวนกลับกรุงลงกา พิเภกพาประยูรญาติเข้าเฝ้านางสีดา และทูลว่าทศกัณฐ์สิ้นชีพแล้ว ขอเชิญนางสีดาเสด็จไปเฝ้าพระราม พระอินทร์ให้นางฟ้าเชิญเครื่องทรงมาให้ นางสีดาเสด็จขึ้นบุษบก พิเภกนำขบวนพยุหยาตราออกจากกรุงลงกาเพื่อไปเฝ้าพระราม ฝ่ายนางสำมนักขาเกรงจะมีความผิดถ้าไม่ร่วมไปด้วย จึงแอบตามขบวนไป

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ทศภักตร์”